วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ข่าว IT วันนี้ : ตลาดคอมพิวเตอร์ปีเสือคึกคักเล็งยอดโต15%

ผู้ค้าคอมพิวเตอร์เริ่มคึกคัก เชื่อปี 53 อัตราการเติบโตพุ่ง 15% เหตุผู้บริโภคกลับมามั่นใจจับจ่าย แถมมีเงินอัดฉีดเข้าระบบจากโครงการภาครัฐ
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค จำกัด กล่าวว่า ตลาดคอมพิวเตอร์ปี 2553 มีทิศทางที่ดีขึ้น ผู้บริโภคจะมั่นใจจับจ่ายซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น และยังมีเทคโนโลยีใหม่ที่อินเทลเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ส่งผลให้ตลาดรวมน่าจะเติบโตถึง 15% จากปีที่แล้วแทบไม่ขยับ
อย่างไรก็ตาม พีซีจะมียอดขายคงที่ ส่วนของโน้ตบุ๊คจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 65-68% จากปี 2552 ที่โน้ตบุ๊คแซงหน้าพีซีขึ้นมีส่วนแบ่งตลาด 60% แล้ว หรือเป็นตัวเลข 1.4 ล้านเครื่อง จากปีที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายคอมพิวเตอร์รวมทั้งตลาดมีประมาณ 2.4 ล้านเครื่อง เป็นส่วนแบ่งพีซี 40% ที่ 1 ล้านเครื่อง ในจำนวนนี้เป็นเครื่องแบรนด์ 30% เครื่องประกอบ 70%
ทั้งนี้ ความต้องการพีซียังมีผู้ใช้เป็นกลุ่มโรงเรียน ราชการ และผู้ที่ต้องการใช้งานมัลติมีเดีย เนื่องจากโน้ตบุ๊คตอบโจทย์มัลติมีเดียไม่ได้ หรือถ้าได้ราคาจะหนีไป 30-40% ซึ่งสูงเกินกว่าจะลงทุน ส่วนการใช้งานส่วนตัวจะหนีไปหาโน้ตบุ๊คมากกว่าด้วยงบประมาณระดับ 1-2 หมื่นบาทก็ซื้อได้แล้ว
"ปี 2010 น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น อารมณ์การซื้อจะกลับมาใกล้ๆ กับปี 2008 ที่เคยตั้งงบ 2 หมื่นบาท แต่ซื้อจริง 2.5 หมื่นบาท ต่างจากปี 2009 ตั้งงบไว้ 2 หมื่นบาท พอซื้อจริงลดเหลือ 1.8 หมื่นบาท เอาแค่พอใช้ได้ สถานการณ์อย่างนี้แม้แต่โอเอส ไลเซ่นก็กระเทือน จากเดิมจะซื้อของแท้ ก็เลี่ยงไป ลูกค้าต่อรองไม่ต้องใส่ซอฟต์แวร์ลดได้เท่าไร" นายพรเทพ กล่าว
ส่วนของบริษัทปีที่ผ่านมามียอดรายได้รวม 3,500 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าจะเติบโต 30-40% หรือประมาณ 4,900 บาท ตลาดมีอัตราการเติบโตเท่าไร บริษัทต้องแซงตลาด 100%
ปีนี้บริษัทได้จัดโปรแกรมการตลาด และข้อมูล การส่งเสริมการขายป้อนแก่พันธมิตรทางการค้าเพื่อสร้างลอยัลตี้ โปรแกรม และส่งเสริมให้ร้านค้าตัวแทนที่เคยขายอุปกรณ์ชิ้นส่วนของอัสซุส ให้ปรับมาขายโน้ตบุ๊คเพิ่ม แต่รายใดที่ถนัดทำตลาดชิ้นส่วนอย่างเดียวก็ยังทำต่อไปได้ หากจะเพิ่มการจัดจำหน่ายสินค้าระดับบนเพิ่มด้วย
พร้อมกันนี้ บริษัทจะรุกตลาดต่างจังหวัดโดยการออกบูธ จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย และจัดฝึกอบรมอย่างจริงจัง รวมทั้งป้อนข้อมูลข่าวสารไปที่ร้านของตัวแทนโดยตรง จากเดิมบางรายอาจเข้าไม่ถึงแหล่งข้อมูล
นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ผู้ผลิตโลคอลแบรนด์มีจุดแข็งที่ราชการเป็นหลัก มีขายเข้าตลาดคอนซูเมอร์บ้าง ปัจจุบันตลาดราชการมีงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งเข้ามาสร้างความคึกคักแก่ตลาด ตั้งแต่โครงการจัดหาคอมพิวเตอร์และระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อการศึกษาตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่เป็นโครงการต่อเนื่อง 3 ปีๆ ละเป็นหลักแสนเครื่อง มูลค่าประมาณ 3-4 พันล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่เปิดโอกาสให้โลคอลแบรนด์เข้าร่วมประมูล โดยกำหนดคุณสมบัติเครื่องเป็นมาตรฐาน มอก. มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ศาลยุติธรรม 1-2 พันเครื่อง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคประมาณ 3,500 เครื่อง มูลค่าประมาณ 120 ล้านบาท โครงการไอซีทีชุมชนเกือบ 1 หมื่นเครื่อง มูลค่าประมาณ 273 ล้านบาท เป็นต้น
"การที่ตลาดเปิดกว้างให้โลคอลแบรนด์เข้าร่วมประมูลนี้ บรรดาผู้ผลิตควรทำสินค้าให้มีคุณภาพ เพื่อความน่าเชื่อถือแก่หน่วยงานราชการต่างๆ ที่ให้โอกาส ซึ่งหากรักษาคุณภาพได้ และสร้างผลิตภัณฑ์ให้ได้รับ มอก. เป็นการรับรองการทำสินค้าคุณภาพ" เขา กล่าว
ส่วนการที่ สพฐ. เพิ่มการใช้เอกสารรับรอง CISPR22 ต้องมีมาตรฐานไอเอสโอ 17050 ซึ่งเป็นการรับรองตัวเอง เพราะเอกสารรับรอง CISPR22 เป็นการรับรองเฉพาะเครื่องที่ส่งตรวจเท่านั้น น่าจะเป็นการเพิ่มทางออกแก่ขั้นตอนการตรวจรับ เพื่อให้โรงเรียนได้ใช้สินค้าคุณภาพ
ปีที่ผ่านมา ตลาดคอมพิวเตอร์โดยรวมมีส่วนแบ่งคอนซูเมอร์ 50-60% ซึ่งตลาดหลักอยู่ในโมเดิร์นเทรด เอสเอ็มอี 30% และราชการ 15% ปีนี้ราชการจะขยับเป็น 20% โดยคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นอินเตอร์แบรนด์ 60% ที่เหลือเป็นโลคอลแบรนด์ 15% และดีไอวายกว่า 20%



อ้างอิงจาก :http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20100202/98353/ตลาดคอมพิวเตอร์ปีเสือคึกคักเล็งยอดโต15.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น