วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ข่าว IT วันนี้เอ็นไอไอทีดันไทยชิงตำแหน่งญี่ปุ่น ศก.คลาวด์ฯเอเชีย



นายอาร์วินด์ ทาเคอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นไอไอที เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า เมื่อปลายปี 2552 บริษัทได้ร่วมมือกับฮิตาชิ อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ นำความเชี่ยวชาญของทั้ง 2 บริษัท มารวมกันเพื่อเปิดให้บริการด้านคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในเอเชีย โดยเอ็นไอไอที จะเป็นผู้รับผิดชอบด้านการบริหารจัดการระบบคลาวด์ทั้งหมด ขณะที่ฮิตาชิ เป็นเจ้าของเทคโนโลยีระบบคลาวด์

ด้านลูกค้ากลุ่มแรกที่บริษัทจะเริ่มให้บริการ คือ กลุ่มลูกค้าเก่าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มย้ายฐานจากญี่ปุ่นมาไว้ในประเทศไทย เนื่องจากไทยมีระบบโครงสร้างพื้นฐาน และมีต้นทุนในด้านการให้บริการที่ถูกกว่า เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อาทิเช่น เวียดนาม สิงคโปร์ หรือมาเลเซีย

"ในปี 2010 นี้ เอ็นไอไอที จะลุยตลาดการให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง อย่างเต็มที่ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐาน และได้ลงทุนสร้างศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ แล้ว 2 แห่ง คือ ที่ อาคารเนชั่น บางนา และตึกเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร สำหรับให้บริการลูกค้าในประเทศแถบเอเชียโดยเฉพาะ ให้สามารถเข้ามาเช่าใช้ระบบสารสนเทศต่างๆ ได้โดยไม่ต้องลงทุนเอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของระบบ ให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น" นายอาร์วินด์กล่าว

ทั้งนี้ บริการด้านคลาวด์ คอมพิวติ้ง ของเอ็นไอไอที ปีนี้จะเปิดให้บริการครบวงจรทั้ง 4 ส่วน ได้แก่ 1. บริการในรูปแบบแอพพลิเคชั่น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ตามจริง ซึ่งอาจมีทั้งบริการให้ใช้ฟรีหรือเก็บค่าบริการสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป 2. บริการข้อมูลด้านซอฟต์แวร์ โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องติดตั้งฮาร์ดแวร์ หรือซอฟต์แวร์เพียงแต่แยกใช้บริการ และเสียค่าใช้จ่ายตามจริงเท่านั้น

3. บริการในรูปแบบแพลตฟอร์ม เป็นบริการที่รองรับการทำงานของแอพพลิเคชั่นอีกทีหนึ่ง และ 4. บริการในรูปแบบโครงสร้างพื้นฐาน เป็นการบริการเครื่องแม่ข่าย อุปกรณ์เน็ตเวิร์ค ดิสก์สตอเรจ ฯลฯ ซึ่งเป็นการบริการที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไอทีเป็นหลัก

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2553

สรุปการใช้ห้อง Micro Teaching

สรุปการใช้ห้อง Micro Teaching

1. มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย น่าสนใจ และมีความหลากหลายของอุปกรณ์
2. แต่ละกลุ่มมีสื่อที่นำมาเสนอน่าสนใจ
3. มีการบันทึกภาพขณะการนำเสนอ ทำให้เราสามรถนำจุดที่เรายังไม่ดีไปปรับปุรงได้


สิ่งที่ควรปรับปรุง

1. บางกลุ่มออกมานำเสนอแต่สื่อที่นำออกมานำเสนอบางครั้งเกิดความผิดพลาด
2. สีของตัวอักษรของบางกลุ่มอ่านออกยาก เพราะสีใกล้เคียงกลับพื้นหลัง
3. ห้องเล็กเกินไป
4. มีกล้องไม่ครบทุกมุม

นวัตกรรมละเทคโนโลยีการศึกษาที่ใช้ในห้อง Microteaching

1. Visualizer
2. Projector
3. Labtop
4. Camera
5. Bluetooth
6. ห้องกระจายเสียง


อยากให้อาจารย์พามาเรียนที่ห้องนี้บ่อยๆค่ะ
เพราะจะได้เป็นการฝึกฝนตนเองไปในตัวค่ะ

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

อินเทลรุกตลาด”สมาร์ทโฟน”


การกลับเข้าสู่ตลาดสมาร์ทโฟนของอินเทลเท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับ Qualcomm บริษัทผู้ผลิตชิปไร้สายที่กำลังมาแรงอยู่ในตลาดขณะนี้ นอกจากนี้ ทางอินเทลยังได้ประกาศ “app store” สำหรับเน็ต (netbook) อย่างเป็นทางการอีกด้วย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่โพรเซสเซอร์ของอินเทลครองตลาดอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ในงาน CES 2010 เริ่มมีการนำ “smartbooks” ที่ใช้ชิปของ Qualcomm เข้ามาเจาะตลาดเน็ตบุ๊กด้วยเหมือนกัน
ที่มาจาก : http://www.itday.in.th/

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

ข่าว IT วันนี้ : BIG CHANGE 5 ที่สุดแห่งปี


BB ฟีเวอร์ ไม่มีไม่ได้แล้ว กระแสของแบล็กเบอร์รี่ หรือที่เรียกกันติดปากว่า "บีบี" ไปแล้วทั้งบ้านทั้งเมือง กำลังกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ทุกคนอยากลองใช้ ลองสัมผัส หลังจากที่เจ้าบีบีก่อกระแสจากกลุ่มดารา ไฮโซ จนเป็นภาพที่เราเห็นกันชินตากับพฤติกรรมการนั่งพิมพ์ยืนพิมพ์ข้อความผ่านคีย์บอร์ดแป้นพิมพ์ เพื่อแชต อีเมล และการเข้าถึงโซเชียลเน็ตเวิร์ก กลายเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ทุกคนอยากเป็นหนึ่งในแฟนคลับผู้ใช้บีบี แม้ว่าบีบีจะมีให้เลือกไม่หลากหลายรุ่นนัก แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเลือกใช้บีบีที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น รุ่นเคิร์ฟ รุ่นโบลด์ และรุ่นสตรอมที่เป็นทัชสกรีน ยิ่งช่วงปลายปี 2552 บีบีต้องการขยายฐานผู้ใช้บีบีในเมืองไทยให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวเคิร์ฟ 8520 ที่มีราคาระดับหมื่นต้นๆ จุดนี้เองทำให้กระแสการใช้งานบีบียิ่งเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ "ดีแทค" ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับสองของเมืองไทย กระโดดลงมาเล่นในตลาดบีบีต่อจากเอไอเอส และทรูมูฟ ภาพการแข่งขันช่วงชิงผู้ใช้บริการบีบีจากฟากฝั่งโอเปอเรเตอร์จึงเข้มข้นกลายเป็นสงครามสามก๊กรอบใหม่ที่ระอุขึ้น การเข้าสู่การให้บริการบีบีหลังเพื่อนรายอื่นของดีแทค มาพร้อมกับความใหม่สดในจุดขายที่ว่า "เร็วกว่า คุ้มกว่า ขาวกว่า" ดีแทคโชว์ทั้งเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เคลมว่าเร็วที่สุด ส่วนเรื่องของความคุ้มค่านั้นมาจากโปรโมชั่นการเปิดตัวบริการบีบี ที่มีการทำราคาต่ำกว่าคู่แข่ง และมีการสร้างแพกเกจใช้งานที่ผนวกเรื่องค่าโทร.เข้าไปด้วย แต่ที่เป็นกระแสอย่างแท้จริงน่าจะมาจากการที่ดีแทคได้นำบีบีรุ่นเคิร์ฟ 8520 สีขาว เข้ามาทำตลาดก่อนเอไอเอสและทรูมูฟ เนื่องจากที่ผ่านมาบีบีจะเน้นโทนสีเข้มที่เป็นสีดำ กระแสของเครื่องสีขาวได้ดึงดูดทั้งผู้ที่ใช้งานบีบีอยู่แล้วและผู้ที่ยังไม่เคยใช้ให้มาเป็นเจ้าของ แน่นอนว่าต้องกระทบกับทั้งเอไอเอสและทรูมูฟอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทั้งเอไอเอสและทรูมูฟต่างก็มีจุดขายและการทำตลาดที่นานกว่าดีแทค ความได้เปรียบย่อมมีมากกว่า โดยเอไอเอสถือได้ว่ามีความครบเครื่องบริการบีบีในทุกๆ ด้าน ยิ่งไปกว่านั้นยังกวาดต้อนบรรดาดารา ไฮโซเกรดเออัดแน่นอยู่เต็มค่าย ส่วนทรูมูฟก็มีการขยับเตรียมทำตลาดบีบีอย่างหนักในปี 2553 และพยายามสร้างจุดแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น วันนี้จึงบอกได้ว่าบีบีเปลี่ยนแปลงทั้งพฤติกรรมการใช้งานที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในสังคมผู้บริโภค ที่สำคัญยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงให้กับตลาดโดยเฉพาะความดุเดือดในการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีส่วนผลักดันให้ตลาดสมาร์ทโฟนเป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วด้วย
3G เริ่มแล้ว นับวันยิ่งเข้มข้น แม้ว่า "3G" ในฟากฝั่งเอกชนที่รอการประมูลใบไลเซนส์จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมจะยังไม่เกิด แต่ทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ก็ยังคงเดินหน้าที่จะพัฒนาการให้บริการ 3G บนโครงข่ายเดิมไปก่อน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าน่าจะได้เห็นบรรดาเอกชนให้บริการ 3G แบบเต็มตัวในต้นปี 2554 อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปี 2552 ทีโอที คอร์ปอเรชั่น ได้ฤกษ์เปิดตัว "TOT 3G" ให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลบางพื้นที่ จึงถือเป็นการปักธง 3G ครั้งแรกในประเทศไทย และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการโทรคมนาคมไทย จุดเด่นของการสื่อสารในยุค 3G อยู่ที่การรองรับการใช้บริการแบบดาต้าได้อย่างเต็มรูปแบบ จุดนี้เองจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการใช้งาน ผู้ใช้มือถือสามารถมองเห็นหน้าซึ่งกันและกันผ่านทางวิดีโอคอลล์ เป็นต้น และการเริ่มต้นของ 3G ของทีโอทีในครั้งนี้ ยังสร้างรูปแบบทางการตลาดแบบใหม่ให้เกิดขึ้นด้วย MVNO (Mobile Visual Network Operator) ซึ่งปัจจุบันมี 5 ราย ได้แก่ กลุ่มสามารถ ไอ-โมบาย ที่บริการภายใต้แบรนด์ i-mobile 3G กลุ่มล็อกซเล่ย์ ภายใต้แบรนด์ i-KooL 3G กลุ่มไออีซี ภายใต้แบรนด์ IEC 3G กลุ่มเอ็ม คอนซัลต์ ภายใต้แบรนด์ MOJO 3G และบริษัท 365 ภายใต้แบรนด์ 365 MVNO ทั้ง 5 รายนี้เสมือนแม่ทัพการตลาดที่จะวางรูปแบบการตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างกระแสให้กับ 3G โดยแต่ละรายต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป จุดนี้ต้องรอพิสูจน์ว่าโมเดลธุรกิจไหนจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากกว่ากัน อีกด้านหนึ่งกับการเกิดขึ้นของบริการ 3G คือความคึกคักของบรรดาค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่เตรียมพร้อมทำตลาดมือถือ 3G มากยิ่งขึ้นในช่วงปี 2553 หลังจากที่ผ่านมามีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่มีฟีเจอร์ 3G มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความนิยมการใช้งานสมาร์ทโฟนจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นหากมีการขยายพื้นที่การให้บริการ 3G แบบครอบคลุมทั่วประเทศในอนาคต นอกจากนี้บริการ 3G ยังเป็นการลบปัญหาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ไม่มีสายให้บริการ จุดนี้จะทำให้เกิดการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายกระจายไปทั่วประเทศอีกด้วย กระแสทวิตเตอร์ คนไทยติดอันดับโลก ต้องยอมรับว่ากระแสของ "โซเชียลเน็ตเวิร์ก" นั้นเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดในปี 2552 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ทวิตเตอร์" ที่นิยมใช้งานไปทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าช่วงแรกที่คนในประเทศรู้จักและเริ่มที่จะสนใจการใช้งานทวิตเตอร์ มาจากการที่การเมืองนำมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารติดต่อกับกลุ่มที่ติดตามตนเอง โดยมีกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำทวิตเตอร์มาให้เป็นสื่อหนึ่งจนถึงปัจจุบันนี้ สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าคนไทยคลั่งทวิตเตอร์ขนาดไหน เห็นได้ชัดจากเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำว่า "WeLoveKing" ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของ Trending Topics หรือหัวข้อสนทนายอดนิยมของโลกได้ แน่นอนว่าในอนาคตการใช้งานทวิตเตอร์และเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กจะยิ่งกว้างขึ้น เข้าถึงกลุ่มคนได้มาก รองรับการใช้งานของคนทั่วโลกได้เพิ่มขึ้น และจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมา เช่นฟังก์ชั่นการแปลภาษาอัตโนมัติ ทำให้เกิดการสื่อสารข้ามเชื้อชาติได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อทวิตเตอร์และโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ภาคธุรกิจต่างๆ ก็เล็งเห็นและเข้ามาเกาะกระแสที่เกิดขึ้น เพราะสามารถทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของสินค้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานอายุระหว่าง 25-40 ปี จะใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กมากที่สุด กลยุทธ์ที่ธุรกิจจะอาศัยกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น ควรใช้การกระตุ้นหรือมีกลยุทธ์ที่ให้คนที่มีอิทธิพล (Influencer) พูดถึงสินค้า หรือแบรนด์ แทนเจ้าของแบรนด์นั้นๆ เนื่องจากจะสร้างความสนใจได้มากกว่า และจะพูดถึงแบรนด์หรือสินค้านั้นต่อๆ ไปเอง ปรากฏการณ์เลข 7 เปลี่ยนเครื่องพีซีทั่วโลก หลังจากที่ไมโครซอฟท์สะดุดขาตัวเองจากไมโครซอฟท์ วินโดวส์ วิสต้า การเปิดตัวระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์ 7 จึงเกิดมาเพื่อลบข้อจำกัดและความบกพร่องที่เกิดขึ้นในวิสต้า ไมโครซอฟท์ยืนยันว่า วินโดวส์ 7 จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เชื่อถือได้ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และทำให้ชีวิตประจำวันง่ายยิ่งขึ้น ส่วนองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วินโดวส์ 7 นับเป็นระบบปฏิบัติการที่ดีที่สุดทั้งสำหรับการทำงานและใช้งานส่วนตัว และด้วยวินโดวส์ 7 โปรเฟสชันนัล สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคย สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ วินโดวส์ 7 พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ มีการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยมากขึ้น มีการควบคุมในการลดความเสี่ยง จัดการการใช้งานให้ง่ายยิ่งขึ้นและช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ไมโครซอฟท์ตั้งใจว่าการมาของวินโดวส์ 7 จะต้องเปลี่ยนแปลงเครื่องพีซีทั่วโลกให้มาใช้งานระบบปฏิบัติการตัวใหม่นี้ รวมถึงคนที่ใช้งานวินโดวส์เอ็กซ์พีที่ใช้กันมากว่า 7-8 ปีแล้วด้วย ด้านค่ายผู้ผลิตคอมพิวเตอร์นั้นเชื่อว่าวินโดวส์ 7 จะพลิกโฉมหน้าให้กับวงการคอมพิวเตอร์ด้วย อย่างเดสก์ทอปที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีมัลติทัชสกรีน หรือลูกเล่นที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะช่วยให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น รองรับการใช้งานได้ทั้งมัลติมีเดียและการทำงานที่หลากหลายรูปแบบ ที่สำคัญที่ผ่านมาหลายองค์กรจะกลัวว่าการย้ายระบบไปยังระบบปฏิบัติการตัวใหม่จะเป็นเรื่องยากและเสียเวลา แต่การอัปเกรดมาใช้วินโดวส์ 7 เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โน้ตบุ๊กบางสุดๆ แบตอึด ผลพวงจากชิปอินเทล ช่วงปี 2551 กระแสของ "เน็ตบุ๊ก" ได้กลายเป็นพระเอกให้กับวงการคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับปี 2552 และปี 2553 นี้ โน้ตบุ๊กบางเฉียบ เบาสุดๆ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวทั้งวันคือพระเอกตัวจริงของวงการนี้ เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เอเซอร์ร่วมกับอินเทล เปิดตัวเอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ โน้ตบุ๊กที่มาพร้อมโปรเซสเซอร์อินเทล คอร์ 2 ดูโอ แบบอัลตร้า โลว์ โวลเทจ ทำให้เกิดโน้ตบุ๊กเซกเมนต์ใหม่ที่มีความบางเบาเป็นพิเศษ ที่สำคัญโน้ตบุ๊กนั้นสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานต่อเนื่องกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการคอมพิวเตอร์ทั้งในเรื่องของนวัตกรรมและการดีไซน์ ทั้งนี้ โน้ตบุ๊กที่มาพร้อมกับดีไซน์บางเฉียบ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมาก ช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบัน ในด้านความคล่องตัวและการพกพาสะดวกมากขึ้น จากการที่อินเทลสามารถพัฒนาโปรเซสเซอร์รุ่นนี้ให้มีขนาดเล็กลง 58% ทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นนี้สามารถออกแบบให้มีขนาดบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ประกอบกับอินเทล ลามินาร์ วอลล์ เจต เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยลดความร้อนของคอมพิวเตอร์ และยังช่วยแต่งเติมลูกเล่นในเรื่องของการดีไซน์ให้เก๋ไก๋และทันสมัยมากขึ้น หลังจากที่เอเซอร์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ดังกล่าว ค่ายคอมพิวเตอร์รายอื่นๆ ได้ทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นกระแสความนิยมใช้งานในหมู่ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ซึ่งผู้ประกอบการชี้ว่าโน้ตบุ๊กในเซกเมนต์นี้จะเป็นเรือธงในปี 2553 ด้วย เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก และนี่คือ 5 ที่สุดแห่งปีของไอทีและเทเลคอมไทย ที่จะมีผลอย่างแน่นอนในปี 2553 นี้ และต้องคอยจับตาดูว่าจะมีผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อมาแข่งรัศมีของทั้ง 5 ได้หรือไม่ หรือทั้ง 5 นี้จะยิ่งกลายเป็นพระเอกที่ฉายแววโดดเด่นต่ออีก 1 ปี